วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

monkey arrogant เมื่อเม่าผยอง

หายไปนาน  ระหว่างนั้นก็จัดหุ้นไปอีกตามระเบียบ(แต่ไม่ได้มาเขียนตามสัญญา)  ระหว่างนั้นมีท้อแท้  สับสนบ้างเล็กๆน้อยๆตามประสาเม่า 55+

กลับมาเล่าประสบการณ์เม่าไว้เป็นอนุสรณ์การเดินทาง  วันหลังจะกลับมาดูว่าตัวเองโง่แค่ไหน


ตอนแรกอ่านหนังสือหุ้นมั่นใจครับ  มั่นใจมาก  หุ้นดีตลาดทิ้งเก็บเลย  หุ้นดีราคาไม่ไปไหนเก็บเลย  สรุปมือเกือบขาดครับ
พออ่านหนังสือมันเขียนว่าเหมือนเราเก่ง  ชาวบ้านโง่  ชอบคิดไปว่าชาวบ้านเค้าไม่รู้หรอกว่าตัวนี้มันดีอย่างนี้ บลาๆๆๆๆ  ที่ไหนได้  ชาวบ้านกับเรารู้เท่าๆกันแหละครับ


ตอนแรกที่รู้จัก BLA กับประกันชีวิต  คิดเลย  โห!!!  หุ้นเทพมาก  biz model snowball โตทบต้น  ไม่ซื้อก็บ้าแล้ว  ผ่านไป 4 เดือนราคา BLA ไม่ไปไหนเลยครับ  กากสุดๆ  นี่แหละครับเม่าของแท้
ยิ่งศึกษายิ่งเจอจุดอ่อนของ BLA ครับ  แต่ก็ดีนะครับที่คนอยากรวยไม่ได้ซื้อ SCBLIF แค่ตัวเดียว  ไม่งั้นราคาขึ้นไปเกือบ 50% คงผยองว่าตัวเองเทพค้ำฟ้าแน่ๆ


มาตอนนี้ความคิดก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนไป   มองให้กว้างและลึกมากขึ้นครับ  งบการเงินก็ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นนิดนึง  เม่าเริ่มตัวใหญ่แล้ว 555+


คนอยากรวยบอกเลยนะครับว่าอะไรที่มือใหม่รู้  ตลาดก็รู้ครับ  อย่าผยองตัวเองว่ารู้คับโลก  โลกการลงทุนมันยังกว้างมากครับ  ลงมา 4 เดือนจะไปรู้แมวอะไร


ดังนั้นกฏข้อ 1 ของเม่าผยอง คือ  ชอบคิดว่าตัวเองรู้  และคิดว่าตลาดโง่  คนอื่นโง่  จริงๆเราน่ะแหละครับโง่ !!!

ต่อมาคนอยากรวยเจอหุ้นบางตัวอดีตดูดี  แต่เจอวิกฤต  คิดเลยครับ  โห  ลงมาตั้ง 50%  ราคายิ่งตกยิ่งถูก  รับยังงัยก็กำไร  คนคิดอย่างนี้มือขาดมาหลายคนแล้วครับ  ดีที่ผมหดมือทันเลยขาดแค่ไม่กี่นิ้ว

ขอเล่าจากประสบการณ์เลยนะครับว่าหุ้นที่มันไหลลงเยอะๆ(ถ้าไม่นับการทุบของพระเจ้าเบื้องบน)  มันเกิดจากการที่บริษัทนั้นๆเจอวิกฤตครับ  เจอทีนึงแล้วยวบเลย  ไอ้ตอนกำลังยวบเนี่ยแหละครับ  ที่เข้าไปแล้วมือจะขาด  ถ้ามั่นใจว่าฟื้นแน่ๆก็เข้าได้  แต่จะดีกว่าไหมถ้าเข้าตอนที่เงินทำงานได้เลย

คนอยากรวยว่าเราไม่รู้หรอกครับว่า bottom จริงๆมันอยู่ที่ไหน  อาจจะพอเดาได้คร่าวๆ
อย่างกรณี SiS ที่คนอยากรวยเข้าตั้งแต่ 9.7 ลงมาเรื่อยๆ  กะว่าไม่หลุด 9 เพราะแถวๆนี้ market cap มันจะหลุด 2,000m แล้ว  ปรากฏว่ามันหลุดได้ครับ !!! หลุดไป 8.65 new low ในรอบ 1 ปี  ผมก็ไปออกของแถวๆนั้นตามประสาเม่าเพราะมันหลุดจนกลัวแล้ว  จนตอนนี้ต้องลดสัดส่วนการถือ SiS ไปเลยครับ

คนอยากรวยมองว่าจะรอรับไอ้พวกนี้คือเราต้องรู้นิดนึงนะครับว่าจุดกลับตัวมันจะอยู่ตรงไหน  อย่างพวก vi ก็คือใช้พื้นฐาน  เช่น SiS จะเริ่มกำไรดีขึ้นถ้า inventory มันลด  คนอยากรวยรู้ครับ  แต่ตลาดก็รู้  เมื่อไหร่ inventory SiS เริ่มลดกำไรน่าจะกลับมาใกล้เคียงเดิมมากขึ้น  ถ้าเป็น vs อาจจะใช้ divergence อะไรของเค้านั่นแหละดู


ส่วนตัวที่คนอยากรวยอ่านพื้นฐานมาเยอะกว่า  คนอยากรวยก็ต้องดู inventory  แต่นี่คนอยากรวยเห็นมันลงมาเยอะๆกลัวขึ้นหนี  ซัดตุ้มไปมือเกือบหาย  ดีที่ออกของทัน



ดังนั้นหุ้นที่เจอวิกฤตต้องมีจุดกลับตัวครับ  หรือจะเรียกว่า catalyst หรือ story ก็ได้  ส่วนใหญ่เรามักจะมองข้ามข้อนี้ครับ  ทำให้บางทีหุ้นเราถูกอยู่นานมากๆ(เช่น BLA และ SiS)
หรือที่มือขาดกันเป็นประวัติการณ์ในตอนนี้ต้องยกให้บ้านปูครับ  ร่วงลงมาจาก 800 กว่า  เพราะหวังแค่ว่า  มันลงมาเยอะ  เดี๋ยวก็ต้องขึ้น  สุดท้ายหุ้นพื้นฐานดี  ไม่มี story เร่งก็ร่วงต่อได้ครับ


คนอยากรวยยกตัวอย่าง SCBLIF ตอนแรกร่วงจาก 600 มาเหลือ 400 นิดๆ  จากนั้นค่อยๆกระดึ๊บๆมาที่ 500 ผมมองแล้วว่าถูกมาก็เริ่มทยอยซื้อเข้าพอร์ท  จุด unlock จุดแรกคือการปันผลมา 30 บาทหรือเกือบๆ 5% ครับ  volume เข้าคนกลับมาสนใจอีกครั้ง  และประกันชีวิตผมตามเบี้ยทุกเดือนอยู่แล้ว  รู้เลยครับว่าเบี้ย 3 เดือนที่ผ่านมาของ SCBLIF สูงมาก  แต่ประเมิน conservative แล้วราคาก็ไปจากปันผลมากแล้วเลยไม่ได้ซื้อต่อ  งบออกมากำไรโต 50%(คือผมรู้อยู่แล้วว่างบดี  แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้)  ตลาดปรับมูลค่าให้วิ่งจากราวๆ 560 ไปถึง 730 เลยครับ  ซึ่งถามว่าพื้นฐานอะไรเปลี่ยนไหมก็คงไม่ชัดเจน  เพราะมันก็เร่งยอดนิดหน่อย  แต่งบการเงินหรือกำไรเนี่ยแหละ  ตัวเร่งชั้นยอดครับ(ซึ่งคนอยากรวยหมูไปเรียบร้อย TT^TT)


ดังนั้นหุ้นที่ดีต้องมี story เร่งครับ  อย่าง BLA ถ้าใครจะเข้ารอ 3 story นี้ก่อนครับ
1. ผบห ซื้อ(เพราะเค้าเล่นรอบบ่อย  ถ้าเค้ารู้ว่าจะมีสัญญานเค้ากลับมาซื้อแน่  ซื้อเยอะตามน้ำได้เลย)
2. สำรองลด  อันนี้ต้องตามจากงบรายปี  รู้พร้อมตลาด  แต่ข้อ 1 อาจจะมาก่อน  มาแล้วต้องมั่นใจซื้อให้ทัน
3. FYP ค่อยๆเพิ่ม  เพราะตอนนี้เบี้ยแพ้อุตสาหกรรมกระจุยกระจาย  ถ้า FYP เพิ่มแสดงว่า BLA ค่อยกลับมาไล่เบี้ยแล้ว  แปลว่าปัญหาในบ้านน่าจะแก้ได้แล้ว  ตรงนี้เราตามเบี้ยได้ทุกเดือน(อย่างน้อยก็เร็วกว่างบเดือน)
ผมว่าถ้า unlock หมด  ราคาน่าจะไป 10 บาทได้(แต่เมื่อไหร่ไม่รู้นะ)
ถืออยู่อย่างผมก็ถือต่อไป


ถ้าเป็น SiS unlock เมื่อ
1. inventory ลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ
2. IT คึกคัก
3. GPM กลับมมาเท่าเดิมหรือ NPM กลับมาเท่าๆเดิม
ถ้า unlock หมดผมว่า 12 บาทอัพ


ดังนั้นหุ้นถูก  หุ้นดีทุกตัวต้องมี story มา drive ราคาครับ  และเราต้องมองให้ออกก่อน  เพราะถ้ามองทีหลังราคามักจะ price-in story ไปแล้ว  คือถึง story มาราคาก็ไม่ค่อยไปไหน  แต่ถ้าไม่มาเจ็บหนัก  ดังนั้นต้องมองไปยาวๆหรือมองให้เห็นก่อนคนอื่น  บางทีเห็นลางๆก้ต้องเอาไว้แล้วครับ

ไม่งั้นหุ้นถูกๆดีๆอย่าง BLAND, SENA, KYE มันก็จะถูกไปเรื่อยถ้าไม่ได้ unlock value ครับ


ข้อนี้พูดเหมือนง่าย  แต่ยากนะครับ  การจะหาหุ้นที่ถูก  ดี  และมี catalyst นี่คือหุ้นในฝัน ณ ตอนนั้นเลย  คนอยากรวยว่า catalyst หายาก  และมีหลายแบบ  ทั้ง catalyst แบบเบาๆ  แบบหลอกๆ  แบบจริงๆ
ไม่เฉพาะแต่หุ้นที่เจอวิกฤตนะครับ  หุ้นธรรมดาก็ต้องมี catalyst ถ้าราคามันจะไป  ก็คงเหมือนที่ดินละครับ  สมมติราคา 20m อยู่ๆใครจะมาซื้อ 50m  แต่ถ้ามี CPN มาสร้างใกล้ๆ  มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน(ถึงจะแค่ข่าวลือหรือมีโครงการก็เถอะ)  ราคาจะขึ้นไปรอเลยครับ
ทำให้คนอยากรวยเข้าใจที่อาจารย์คนอยากรวยเชียร์ AOT โดยบอกว่ามี story เยอะ  ตอนนั้นคิดว่าอะไรวะ  อาจารย์แมร่ง speculate นี่หว่า  แต่พอฟังว่ามันจะมีตัว drive ราคา 1 2 3 4 นะ  ถ้าหลุด 1 ก็มี 2 มี 3 มี 4 จะหลุดหมดน่ะยาก  โดย AAV น่าจะต้องย้ายไปดอนเมือง  เพราะ low cost airline มัน flight delayed มากไม่ได้  เพราะมันเน้นรอบในการบิน  ยังงัยก้น่าจะย้าย  ทำให้ AOT ใช้ asset ที่ไม่เกิดประโยชน์ได้  บลาๆๆๆๆๆ  เรียกว่าเชียร์ตั้งแต่ 50 จนจะ 70 และ(แต่น่าจะเก็บมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นละ)  คนอยากรวยเพิ่งเข้าใจ  นี่แหละเค้าเรียกว่า  มองขาด !!!


ดังนั้นกฏข้อที่ 2 ของเม่าผยองคือ  มองหา catalyst ไว้เสมอ  ไม่มีราคามันก็จะเติบโตไปเรื่อยๆ  ถ้ามีราคามันจะมี big jump ได้



คนอยากรวยว่าบางอย่างไม่มีคนรู้ดีกว่าเราเท่าไหร่หรอก  อันนี้คนอยากรวยหมายถึงพวกเซียนๆ  เพราะคนอยากรวยเคยไป meeting แล้วพบว่า  เจอเค้าคุยกันเรื่อง CFRESH ฟังไม่รู้เรื่องเลย  กุ้งอะไรวะเนี่ย  บางทีก้หุ้นราคาน้ำมันอีก  มันก็แหงๆครับ  เพราะคนอยากรวยไม่ได้อ่านหุ้นพวกนี้เลย  ไม่รู้เลยมันก็เหมือนเค้าเก่งกว่าเรามาก  แต่ถ้าเป็นรายละเอียดเชิงลึกหรือข้อมูลประกันชีวิต  คนอยากรวยก็โม้น้ำไหลไฟดับได้เหมือนกัน  เอาจริงๆข้อมูลเรื่องประกันชีวิตคนอยากรวยว่าคนอยากรวยไม่แพ้คนพอร์ท 9-10 หลักหลายๆคนแล้วกัน(เพราะอ่านมันอยู่ตัวเดียวนี่แหละ)

แต่สิ่งหนึ่งที่คนอยากรวยว่าทำให้เม่าธรรมดาต่างกับเซียนคือ vision
พวกระดับเซียนเค้าจะมองได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร  อนาคต boardband จะเป็นอย่างไร   sat TV จะทำให้เกิดผลอย่างไร  modern trade ล่ะ  ซึ่ง skill vision ผมมองว่าคือการมอง story ในอนาคตว่าจะมีอะไรมา drive ราคา  หรือทำให้ผลประกอบการดี  ซึ่งคนอยากรวยยังไม่มีเลยยังบอกไม่ได้ว่ามันเป็นพรสวรรค์หรือทักษะที่ฝึกได้

แต่คนอยากรวยมองว่าการที่เม่าผยองนั่งจ้องแต่ตัวเลขหรืองบ  หรือข้อมูลเชิงลึก  ก็เหมือน scope การมองแค่ตรงนี้  แต่พวกเซียนจะมี scope ที่กว้างกว่า  แต่อาจจะลึกน้อยกว่า  ซึ่งรอบด้านและครบถ้วนมากกว่า  เอาจริงๆหุ้นหลายๆตัวในพอร์ท  คนอยากรวยไม่เคยไปเดินสัมผัสตัว product หรืออะไรเลยด้วยซ้ำ  แต่พวกเซียนๆบางทีเค้าเห็นถึงโรงงานผลิตกันเลยทีเดียว


กฏข้อที่ 3 ก็ตามมาคืออย่าคิดว่าใครเก่งกว่าเรา(แต่อย่าผยองนะ)  และมองให้กว้างไว้ครับ




กฏข้อสุดท้ายเป็นกฏที่คนอยากรวยพยายามปรับปรุงกับตัวเองคือการวางแผนครับ

มันไม่ใช่เรื่อง money management แต่มันคือการวางแผนการลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆโดยละเอียดมากขึ้น  ทั้ง fair value, downside, upside โดยระบุมาเป็นตัวเลขหรือแผนการเลยครับ

อย่างตอนที่คนอยากรวยคุยกับอาจารย์เวลาถาม  บางทีอาจารย์ก็ตอบแบบดูแปลกๆเช่น  ถ้า AOT มีคดีเยอะก็ตีค่าความเสียหายเป็น EPS สัก 1 บาท  แล้วก็ discount จาก EPS ปกติไปครับ  หรือ THCOM อาจารย์ให้คิดง่ายๆว่า 1G = 1 บาท  เป็นต้น  หรืออย่างที่ผมเห็นประมาณการณ์ของคุณ Chinn

เค้าจะประมาณออกมาเลยว่า  ถ้ามี 1 2 3 จะตีเป็นมูลค่าได้กี่บาท  ตอนนี้ราคากี่บาท  ถ้าไม่โตเลย  ราคากี่บาท  เรื่องนี้มีผลกี่บาท  ทำให้เค้ารู้ว่าควรจะเข้าจะออกอย่างไร  บางทีมันอาจจะไม่ได้แม่นถึงขนาดเข้าที่จุดต่ำสุด  ออกที่จุดสูงสุด  แต่เค้าจะหมูน้อยลงแน่นอน  เพราะบางทีเค้าประมาณการณ์ไว้แล้วว่าราคามันควรจะอยู่ตรงไหนเพราะอะไร  ซึ่งถ้าคนอยากรวยทำได้  ตอนนี้คงมี SCBLIF อยู่

แต่อะไรผ่านแล้วก็ผ่านมันไป  ตัวใหม่ๆจะไม่ยอมให้เธอจากไปอีกแล้ว TT^TT


อย่างไรก็ดีคนอยากรวยว่าการจะวางแผนได้ละเอียดในระดับหนึ่ง  ต้องมี vision ที่ดี  เพราะถ้า vision ไม่ดี เละครับ  ประมาณการณ์ผิดไปเยอะ  ขายหมูก่อนไม่เป็นไร  แต่บางทีมอง downside ผิดคนอยากรวยว่าจะตายเอา




หนทางข้างหน้าก็ยังมืดมัว  แต่คนอยากรวยก็ยังหลงตัวเองว่ามีแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์  ก็ลองไปดูครับ  สู้ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น