BLA หรือกรุงเทพประกันชีวิต เป็นหุ้นน้องใหม่ที่เข้าตลาดได้ไม่กี่ปี แต่ตัวธุรกิจจริงผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่ได้น้อยกว่าประกันตัวอื่นเลย
หุ้นตัวนี้ IPO มาที่ปลายปี 52 ด้วยราคาประมาณ 15 บาท จากนั้นก็โตอย่างรวดเร็วมาจนถึงราคา 60 บาทภายใน 2 ปี แน่นอนว่าหุ้นประกันชีวิตคือ growth stock แต่ growth ในระดับที่มากเกินไปย่อมไม่ยั่งยืน ราคาก็ร่วงกลับมาแตะที่ 40 บาทแบบในที่ๆมันควรจะเป็น จากนั้นก็โดนเรื่องตั้งสำรองสูงเกินไปทำให้กำไรไม่ release ออกมาครับ ทำให้ราคายังไม่ไปไหน จนถึงตอนนี้ก็ราคาราวๆ 45 บาท ซึ่งผมถือว่าเป็นราคาตรงนี้ค่อนข้างจะ fair value เลยทีเดียว
โดยส่วนตัวถือว่าโชคดีที่เข้ามาในหุ้นประกันชีวิตในช่วงที่โดนวิกฤตทั้ง 2 ตัว(ในขณะที่ตัวอื่นกำลังทะยานฟ้า และ set ขึ้นมา 3 เท่าจาก 400->1,200) ไม่งั้นหากคนอยากรวยได้เข้ามาก่อนหน้านี้สัก1-2 ปี อาจจะได้ถือฟรีอีก 1 ปี
โดยส่วนตัวหาก BLA กลับไปที่ 60 บาทเดิมได้ จะได้กำไรถึง 33% เลยทีเดียว ซึ่งไม่น่าพลาดครับหุ้นตัวนี้ ^^
[[[Review BLA]]]
เชิงปริมาณ
1. BLA มีทรัพย์สิน 110,000ล้าน มีทรัพย์สินลงทุน 107,000ล้าน ROI ประมาณ 5.3% ในรอบ 6-7ปีหลังมีแค่ปีเดียวเท่านั้นที่ ROI น้อยกว่า 5%คือ 4.9% ซึ่งคิดว่า ROI ไม่น่าจะน้อยกว่า 5% คิด 5%ก็ค่อนข้าง conservative แล้ว หรือจะคิด 5.3% เลยก็ได้ครับ
2. BLA มี FYP ประมาณ 8,300m, RYP 23,000m TP จึงออกมาที่ 31,000m ซึ่งคาดว่า FYP โต 10% พอไหว จาก 2 เดือนแรกเบี้ยรับรวม BLA โตแค่ 15% ครับ ในขณะที่เจ้าอื่นเค้า 20-30% กันทั้งนั้น(เดี๋ยวเอาไว้ค่อนบ่นต่อครับ เฮ้อออออ) ซึ่งคาดว่า FYP น่าจะได้ 9,130m และ RYP คือ 85%ของ TP จะได้ 26,350 ครับ รวมกันจะได้ TP ราวๆ 35,000 ครับ
3. ค่าใช้จ่ายตรงนี้ของ BLA ต้องยอมรับว่าทำได้ดีมากๆครับ จริงๆรายจ่ายต่างของเครือนี้ทำได้ดีมากอยู่แล้วครับ พวกรายจ่ายต่างๆนี่แทบจะน้อยที่สุดในอุตสาหกรรมเลยครับ รวมๆอยู่ที่ราวๆ 35% TP เท่านั้นเองครับ แจงรายละเอียดได้ดังนี้
- กรมธรรม์จ่ายคืน จะอยู่ราวๆ 20% TP หรือ7,000m ครับ
- ค่าสินไหม BLA จ่ายราวๆ 1,500m มา 2ปีแล้วครับ คาดว่าถ้าไม่มีอุบัติภัยหมู่หรือโรคระบาดขนาดใหญ่ อัตราค่านี้ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากครับเพราะคำนวณจากสถิติ คาดว่า 1,600m "เอาอยู่"ครับ
- ค่าจ้างกรรมการ ปีที่แล้วอยู่ที่ 2,4XX ปีนี้ปัดให้กลมๆเลยครับ 3,000m ซึ่งถ้าเกินมากไปเอาไปถัวกับค่าสินไหมเผื่อเกินก็ได้ครับ หยวนๆน่า ^^
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ปกติอยู่ที่ 3.x%ปลายๆครับ ปีที่แล้วก็ 1,250m ปีนี้ให้1,400m เลยครับ
- ค่าใช้จ่ายการขาย เดิมราวๆ 320m ปีนี้ปัดกลมๆเลยครับ 400m
รวมค่าใช้จ่ายราวๆ 7,000+1,600+3,000+1,250+400 = 13,250 m ครับ
4. เอา TP มาหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เงินไปลงทุน 21,750 ครับ นำไปหาร 2 เช่นเคย(รายละเอียดลองไปดูใน SCBLIF นะครับ) จะได้เงินมาลงทุนเพิ่มอีกราวๆ 10,875 ครับ
รวมเงินลงทุน 107,000+10,875 = 117,875 ครับ
5. คิด ROI 5.3%(5% ก็ได้นะครับ ถ้าจะ conservative หน่อย) จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 117,875 x
5.3% = 6247.375m ครับ(ถ้าคิด 5% จะอยู่ที่ราวๆ 5,900m ครับ)
6. แต่เผอิญตัวนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เท่ากับกำไรน่ะสิครับ
ย้อนรอยสักนิดจะพบว่า กำไร = (TP + ผลตอบแทนจากการลงทุน) - (ตั้งสำรอง + ค่าใช้จ่าย)
ซึ่ง SCBLIF ตรงส่วนของตั้งสำรอง + ค่าใช้จ่ายเค้าเท่ากับ TP เลย แต่ BLA ไม่ได้ smooth กำไรขนาดนั้นครับ
ขอติดเรื่องกำไรไว้ก่อน เรามาดูตั้งสำรองของ BLA ดีกว่าครับ
ปกติการตั้งสำรองของประกันชีวิต จะพิเศษตรงที่นำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 60%(ก็เลยใส่สำรองกันเต็มตีนเลยว่างั้นเถอะ) โดยประกันแบบ endowment จำเป็นต้องตั้งสำรองสูง(เพราะเราต้องจ่ายคืนเค้า) ส่วนแบบอื่นๆจำตั้งสำรองไม่สูงครับ
ถ้าจำไม่ผิด แบบ endowment ของ BLA จะอยู่ที่ 65% และแบบอื่นจะอยู่ที่ราวๆ 40% พอมาเฉลี่ยกันต้องยอมรับว่าแบบ endowment มันเยอะจริงๆ ประมาณ 70%+ เลยทีเดียว ทำให้ตั้งสำรองของ BLA ออกมาที่ 61-62%(ส่วนเกินจาก 60% ถือว่าเสียภาษีฟรีๆ) แต่ปีที่แล้วที่เป็นเรื่องเป็นราวกันมากคือตั้งสำรองไตรมาสสุดท้าย 78% !!! ทำให้ทั้งปีออกมาตั้งสำรองเฉลี่ยถึง 65%(จากที่คาดการณ์กันแค่ราวๆ 60%) ซึ่งผู้บริหารบอกว่าที่ต้องตั้งสำรองเยอะเพราะขายประกันแบบ endowment ไปเยอะมากครับ(แล้วที่อื่นไม่ขายหรืองัยฟระ !!!)
ไอ้ 5% มันจะมีผลอะไรมากมายใช่ไหมครับ มีแน่นอนครับ เพราะมันคือ 5% ของTP หรือราวๆ 30,000m คิดออกมาเป็นเงินก็๋คือกำไรหายไปถึง 1,500m ครับ(คิดเป็น EPS เนี่ยเป็นบาทเลยนะครับ) ซึ่งแน่นอนว่าถ้าตั้งยังงี้ในปีหลังๆ EPS จะหายไปมากขึ้น(เพราะ TP เพิ่มขึ้น) อย่างปีนี้เราประมาณ TP ไว้ 35,000m ถ้า 5% ก็ 1,750m เป็นกำไรต่อหุ้นเท่าไรลองคิดดูนะครับ
ถึงแม้ว่าตั้งสำรองจะไม่ใช่ค่าใช้จ่ายจริงๆ(แถมเอาไปลงทุนได้ด้วยนะ) แต่เราก็อยากเห็น EPS เยอะๆมากกว่าใช่ไหมครับ และส่วนที่เกินมาจาก 60% ก็ต้องไปเสียภาษีทำให้ EPS ออกมาน้อยลงไปอีก เรียกว่า 2 เด้งครับ
ซึ่งตัวนี้ต้องวัดใจหน่อยล่ะครับว่าจะตั้งสำรองเท่าไรดี เราไม่เสี่ยง คิดมันตั้งแต่ 60%-65% เลยครับ(เกินกว่านี้ถือว่าทำบุญมาน้อยละกันนะครับ) ก็ 60%-65% ของ 35,000m = 21,000m-22,750m ครับ
ดังนั้นกำไรจะอยู่ที่
(35,000+6,247.375) - ([21,000-22,750]+13,250) = 5247.375-6,997.375
หักภาษี 23% -> 4,040.5-5,388 หรือ EPS 3.36-4.49
ว้าวววววววววววว~วว ขนาดตั้งสำรองมหาโหด ยังได้ EPS 3.36 ไม่เลวเลยใช่มั๊ยล่ะครับ(ปีที่แล้ว EPS 2.85)
แต่เตือนสตินิดนึงว่า นี่คิดจาก ROI 5.3% นะครับ ถ้า ROI ได้ 5% ล่ะก็ EPS จะเหลือราวๆ 3.13 ครับ
เชิงคุณภาพ
1. BLA มีการจัดการภายในที่ค่อนข้างดีถึงดีมาก ค่าใช้จ่ายต่างๆถูกควบคุมให้อยู่แค่ประมาณ 3X% กลางๆค่อนๆปลายครับ และ BLA ยังทำ ROI ได้ค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับ SCBLIF เพราะถ้าเงินลงทุนเท่าๆกัน ที่ ROI 4.5% กับ 5.3% จะได้ผลตอบแทนต่างกันถึง 17% ครับ !!!
2. BLA พยายามเน้นขาย non-endowment มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ตั้งสำรองลดลง และกำไรจริงๆจะเพิ่มขึ้นด้วย(เพราะแบบไม่ออมทรัพย์เราไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืน) ซึ่งก็เห็นว่า BLA ทำได้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นจริงๆ แต่จะไปรอดหรือเปล่าต้องมาดูกันครับ
โดยส่วนตัวมองว่าการพยายามพลักดันการขายแบบ non-endowment มากขึ้นนั้น อาจจะทำให้รายได้"ไม่โต"เท่าบริษัทอื่นๆ(ใช้คำว่าไม่โตนะครับ คือเพิ่มแน่นอน แต่อาจจะไม่มากเมื่อเทียบกับ SCBLIF หรือที่อื่นๆ) แต่ในระยะยาวสักหน่อย กำไรจะเป็นเนื้อเป็นหนังมากขึ้นครับ เพราะไม่ต้องจ่ายเงินตามกรมธรรม์เพิ่มขึ้นมาก แต่กว่าวันนั้นจะมาถึง อาจจะนานหน่อยนะครับ จะรักก็ต้องรอหน่อยนะครับตัวนี้
3. BLA ตั้งเป้าหมายค่อนข้าง conservative คืออาจจะดูไม่เวอร์ แต่ให้มาก็มักจำทำได้ เช่นเบี้ยปีนี้คาดว่าจะโต 12% ก็ลองมาดูกันครับ(แต่อุตสาหกรรมเค้าหวัง 15% เลยนะครับพี่โชน)
4. BLA เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากเกือบจะที่สุดของโสภณพานิชย์ เชื่อว่าเค้าต้องพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดครับ(แต่อาจจะมีเล่นรอบบ้างนะเม่าทั้งหลาย)
สรุป รายได้จากการลงทุนน่าจะได้ 6,000m(มีลุ้นเลข 7 แต่ไม่มากหรอกนะ ส่วนตัวคิดว่าราวๆเลข 6 กลางๆ) แต่ตั้งสำรองขอบอกว่าคาดเดาไม่ได้ จากการคำนวณคร่าวๆ 3.36-4.5 ก็ไม่น่าหลุดเช่นกัน(ถ้าหลุดส่วนตัวมองว่าจะหลุดขึ้นมากกว่าหลุดลง) แต่ก็ขอคิด conservative ไว้ก่อนที่สำรอง 65%
ปีนี้ EPS น่าจะ 3 ปลายๆ และตลาดก็น่าจะตอบสนองด้วยราคาที่ 5X กลางๆค่อนต่ำครับ
เดี๋ยวต้นปีหน้า มาดูกันอีกทีกับคำทำนายนี้ครับ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น