วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

WORK เนี่ยมันก็ WORK นะ

แอบอู้ไปช่วยเป็นแอดมินบางเพจมานาน  ลงแต่บทความที่โน่น(บางอันก็ก็อปของที่นี่ดื้อๆเลยนะ)  รู้สึกว่า blog ตัวเองไม่ค่อยเขียน

เลยกลับมาเขียน blog ตัวเองดีกว่า(ถึงจะไม่มีคนอ่านก็เถอะ)


เพราะเวลาคนอยากรวยกลับมาอ่าน  เหมือนจะเข้าใจเลยว่า  เฮ่ยเรารู้สึกยังงัยตอนนั้น  ตอนนี้เป็นยังงัยบ้าง  เพราะเวลามองไปข้างหน้าตอนนั้น  จะได้เอามาปรับปรุงถูกว่าตรงไหนเราไม่ได้คิด  ตรงนั้นเรามองพลาด

มั่วเอง  เจ็บเอง  อ่านเอง  ก็ดีเหมือนกัน(บ้าเนอะ)


กลับมาที่ sat TV เหมือนเดิม  รู้แต่แมร่งกลุ่มนี้ล่ะตู

คือตอนแรกได้ยินความรุ่งเรืองของกลุ่มนี้เมื่อตอนไปสัมมนาเมื่อเมษาปีที่แล้วมั๊ง

ตอนนั้นคนสัมมนาชี้ตัวที่ดีชัดๆเลยคือ RS กับ WORK(แต่ไม่ได้บอก TP นะครับ  แต่บอกว่าดี)
ก่อนหน้านั้นมันวิ่งมาค่อนข้างไกลครับ RS 3 -> 3.9  WORK 20 -> 28

บอกตรงๆว่าตอนนั้นติดราคาที่มันวิ่งครับ  ยิ่งไปดู WORK มาจาก 12 ก็ยิ่งปลงครับ


ก็เล่นอะไรไปเรื่อยๆตามประสาเม่า  จนมาอ่านอีกทีปลายปีครับ  อ่านก็เกทพอสมควร
เล็งไป 3 ตัวครับ NINE, RS, WORK

เข้า NINE ไปก่อน  เพราะคิดว่า upside เยอะ story ดี ฐานต่ำ  ตอนนั้นไม่มีคนเล่นแบบตอนนี้ครับ  เก็บได้นิดหน่อย  ก็พอดีกว่า  เพราะไม่ชัวร์มาก

ต่อมาจะเข้า WORK ก็ดันวิ่งจาก 30 -> 50 โอ้โห  เจ็บครับเจ็บ  60% หายไปในพริบตา

สรุปเหลือ RS ซึ่งตอนนั้นเห็นว่ายังไม่ค่อยดี  เพราะงบ Q3-Q4 จะต้องรับขาดทุนลาลีก้าจากยังไม่ได้รับ LC pay TV ครับ

แต่พอ Q3 ออกมา RS ทำได้ดีกว่าคาดครับ  ผมเลยนั่งคิด  จนหลังปีใหม่  เริ่มมาเคาะเพราะจะปรับพอร์ท เน้นเก็บ W ครับ  และมีจังหวะนึงแม่ร่วงมาถูกกว่าลูก  ผมเลยเก็บแม่ไป 1 ไม้  แต่เน้น W เพราะจะใส่ gearing ครับ

และเพราะ RS ทุนผมต่ำ(ทั้งตัวแม่และ W)  เขียนไปมันเหมือนโม้  เพราะเขียนอะไรมาแมร่งก็ถูก  เพราะราคามันขึ้นแล้วงัย  ผมเลยไม่เขียนดีกว่า



ดังนั้นเพื่อบากหน้ารับชะตากรรม  ผมว่าผมวิเคราะห์ WORK ดีกว่า  ไม้แรกผมนี่แหละ 52-53 โหดไหมล่ะ  ราคาแถวๆนี้เลย  จะหน้าแตกหรือเปล่ามาดูกัน


WORK เป็น content provider ตัวพ่อครับ  เอาสาระเลยละกัน

1. เดิม WORK ทำ 14 รายการ(+3 รับจ้างผลิต)  ซึ่งใน Q2-54,Q2-55 และ Q3-55 ได้ GP ส่วนนี้ถึง 140-150m
สาเหตุที่หายไปช่วงนึงใน Q3-54 และ Q4-54 เพราะน้ำท่วม  โฆษณาไม่ลงแต่ fixed cost มันสูง  รายได้เลยลดฮวบอาบ
และสาเหตุที่ก่อน Q2-54 GP ไม่สูงเพราะ  หลังจากนั้นได้รายการเพิ่ม 3 รายการ  คนอยากรวยจำไม่ได้นะ  ต้องเช็คใน 56-1

2. sat TV ต้นทุนมาแล้ว  แต่ราคาปรับค่าโฆษณาเริ่มปีหน้า  จาก Q3-55 คือรายได้ 42m ต้นทุน 35m  ดังนั้นในปีหน้าค่าโฆษณาจะขึ้น 66.67% แต่ต้นทุนจะไม่เพิ่มมากเท่าหรืออาจจะไม่เพิ่มเลย

3. ส่วนอื่นๆ  ผมคิดเหมาๆแบบต่ำๆแค่ GP = 50 พอ  จริงๆ show biz ปีหลังๆ work ทำได้ดีมาก  แค่ปีที่แล้วก็ 60m แล้ว  ปีนี้ 3Q ก็ 59m    และมีหนังกับนิตยสารอีก  จริงๆ 50 ผมว่าพอเหลือๆ
บางทีอาจจะ 100m ก้ได้  แต่ผมเอา 50 พอ  และคิดว่าพอ

4. ต้นทุน  ปกติตก Q ละ 100m-(คือไม่ถึง 100 ดี  Q4 อาจจะบวมแต่ไม่มาก)  ดังนั้นปีหน้าผมให้ SG&A 500m เลย  ตก Q ละ 125 ขึ้นให้ 25% เลย(ปี 53 SG&A 400m)

5. หนี้ไม่มี  ภาษี 20%


ขั้นแรกเลยคือคนอยากรวยมองว่า GP ของ free TV Q ละราวๆ 250 น่าได้  "ถ้าไม่หลุดผัง"  ดังนั้นปีละ 1,000m ไม่น่าเกลียดเกินไป(รอดู Q4 คอนเฟิร์มอีกทีนะครับ)

 ขั้นต่อมาคือปรับราคาขึ้นครึ่งนึงคือ 7 รายการ  รายการละ 7-20%  เฉลี่ยตาม ait time คือ 5.7%  ซึ่งจริงๆแล้ว  ถ้าค่าโฆษณาขึ้น  ต้นทุนไม่ควรขึ้นตามหรือขึ้นตามก็ไม่เท่า

สมมติขึ้นเท่ากันจะได้เพิ่มมา 34m
ถ้าไม่ขึ้นตามจะได้เพิ่มมา 90m

ชอบตัวไหนหยิบไปใช้ได้ตามสะดวก  สมมติมองกลางๆก็ 50 อ่ะ

แต่ยังมีรายการใหม่อีก 3 รายการ  มีรายการนึงค่าโฆษณาต่ำมาก  ดังนั้นคิด 2 รายการพอ discountๆ  ก็ air time จะเพิ่มมาราวๆ 12%  ซึ่งเหมือนเดิมครับ  ต้นทุนไม่ควรเพิ่มตามมาก  ซึ่งถ้า track record ดีจะพบว่าช่วงเปิดรายการใหม่  ต้นทุนเพิ่มน้อยมาก

สมมติถ้าขึ้นเท่ากัน  จะได้เงินเพิ่มมา 72m
สมมติถ้าไม่ขึ้นตาม(จริงๆน่าจะขึ้นนิดหน่อย) จะได้ 192m  ซึ่งน่าจะเยอะไป  ลงมาเหลือ 150 พอ

มองกลางๆอีกคือ 100  อ่ะ

ดังนั้น GP free TV อยู่ที่ 1,150m (ถ้ามองดีก็ 1,240)  หรือ conserv น่าจะราวๆ 1,100m



ต่อมาที่ sat TV ซึ่งคนอยากรวยดูจาก Q3 ต้นทุนน่าจะเท่าๆเดิม คือ 35x4  แต่เพิ่มให้ 200 เลยอ่ะ  รายได้น่าจะ Q ละ 50m  ปรับ 67.7% ก็ปัดลงมาที่ 300m

ดังนั้น sat TV น่าจะ GP 100m


อื่นๆ 50m


รายได้ 1,150 + 100 + 50 = 1,300
รายจ่าย 500 m

EBIT 800m หักภาษี 20% เหลือ 640m  เทียบราคาวันศุกร์ที่ 54 บาทก็ PE 23  ซึ่งมอง F PE ถือว่าแพงครับ  แต่จะเห็นว่าคนอยากรวยตัดไปเยอะมาก  ตัดจนแหว่งๆๆๆๆๆ


มามองอีกมุมนึงว่า  กำไร NPM มันไตรมาสละ 140m มองจาก Q3  แปลว่าทั้งปี 560m พอได้ในฐานภาษี 23% และไม่หลุดผัง

story ที่มาแน่ๆคือปรับค่าโฆษณา free TV และ sat TV, ได้ 3 รายการใหม่, ภาษีปรับลงเหลือ 20%
ไม่นับอันที่ไม่ชัดเจนอย่างเปิดช่องใหม่หรือความสนใจจะประมูล digital TV

ซึ่งด้วย story ที่ชัดเจนไปแล้ว  คนอยากรวยมองไปที่ 700m++ นะ  ถ้าฟลุคอาจจะแตะๆ 800 หรือเฉียดๆได้
ไหนจะเปิดช่องใหม่อีกกี่ช่องก็ไม่รู้หว่า

สรุปมอง EPS 3บวกลบๆ  PE ตอนนี้ก็ไม่ถึง 17 ถือว่าโอเคนะ


ตัวนี้คนอยากรวยว่าควรจะให้ PE สูงนะ  เพราะมันเป็น content ซะเกือบหมด  ที่มีโอกาสโตแค่"มาก"หรือ"น้อย"เท่านั้นเอง

และยังอยู่ในเทรนด์ที่น่าจับตา  สำหรับคนอยากรวยคนอยากรวยว่าถ้าตลาดไม่ล่ม  ไม่น่าเทรดที่ PE ต่ำกว่า 20(จริงๆเอาลงมาที่ 25 ยังยากเลย)


ปัจจัยเสี่ยงจริงๆน่าจะเป็น"หลุดผัง"  ที่รองลงมาคือตลาด crash  ไม่งั้นไม่น่าขาดทุน


และตัวนี้มันเทรดที่ PE 25-30 มาตลอด  ดังนั้น  สมมติกำไร 3 บาท  ราคาก็ตามนั้น  โอกาส PE ลอยเหนือ 30 ก็พอมีอยู่

คนอยากรวยมองว่าตัวนี้ downside risk ไม่เยอะ  เพราะต่อให้โตน้อยก็ 600m  มองไปที่ราคาวันนี้ PE 23 นิดๆ(600 ก็โตมาเอยะอยุ่ดี)
upside กลางๆที่ 25-80%  มองไปที่ 50% นะ  ตามเป้าปีนี้ 555+


มอง 2.8-3 อ่ะ  PE ให้กันเอง

แต่ถ้าหลุดผังตัวใครตัวมันนะครับ  ยิ่งตลาด crash เนี่ยโดนทุกตัว



p.s. ตัวนี้เศร้ามาก  เพราะก่อนน้ำท่วมกำไรคือ Q2-54 คือ 150m  สมมติมองทั้งปี 600m  ตอนนั้น market cap 3,000-4,000m  เหยดโด้โอรีโอ้ 5 บาทมากๆครับ  มองชัดมาก  แบบมองธรรมดาเลยนะ

p.s.2 RS fully diluted market cap 12,000 และ  WORK market cap 14,000 ก็ลองเลือกดูครับ ^^(แต่คนอยากรวยมีทั้งคู่นะ)

1 ความคิดเห็น:

  1. อยากถามว่าถ้า ซื่อตอนนี้จะ โอ อยุ่ไหม (4 april) พอดีเพิ่งเริ่มเล่นหุ้น แล้วเห็นblogนี้น่าสนใจดี ตอนนี้เม่่ามากๆๆๆๆ อยากรู้ว่า ตอนนี้เป็นไงแล้วบ้างขาดอัพเดดเป็นเดือน

    ตอบลบ