คนอยากรวยเอามา analysis ละเอียดคร่าวๆเลยดีกว่า จะได้รู้ว่าซื้อกี่ตัว ตัวไหนเป็นอย่างไร
จะให้เกรดด้วยนะ คริคริ
1. BLA : เกรด C
ตัวนี้เป็น"หุ้นตัวแรกในชีวิต"ที่ซื้อ เพราะคิดว่าประกันชีวิตโตเยอะแน่ๆ และรู้ว่ามีปัญหา"ชั่วคราว"คือสำรองสูง และคิดว่าน่าจะคลี่คลายได้ดี
แต่สุดท้ายคิดผิด เพราะสำรองลดช้ากวาที่คิด และต้องหดเบี้ย ทำให้ FP ติดลบ รู้สึก Q4-55 TP ติดลบด้วยซ้ำ
การฟื้นตัวยังมองเห็นไม่ชัดเจน โชคดีที่ไม่ขาดทุนครับ(แต่ก็ไม่กำไร)
ต่อให้ราคาขึ้น ผมก็ไม่คิดว่าผมคิดถูกครับ เพราะสุดท้ายกำไรออกมาน้อยกว่าที่ผมคิดอีก ตัวนี้ผมบอกตัวเองเลยว่า"ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ ก็ขายเหมือนเดิมครับ" ไม่เสียใจที่ขายครับ
ตัวนี้ผมว่าผมเข้าใจธุรกิจคร่าวๆ แต่อ่านไม่ขาดครับ
แต่อนาคตอาจจะกลับไปซื้ออีกก็ได้ ถ้าโอกาสเอื้ออำนวยครับ
p.s. ตัวนี้ผมมองว่าโอกาสฟื้นสูงมากครับ 80-90% เลย แต่"เมื่อไหร่"คือคำถาม
2. SCBLIF : เกรด A
ตัวนี้เป็นหุ้นตัวที่ 2 ในชีวิต เพราะจะทำ pair trade กับ BLA ตอนนั้นชอบประกันชีวิตมากๆๆๆๆๆ
เข้าซื้อตอน 500 ขายหมูไปตอน 630 และกลับมาซื้อใหม่ตอน 700
ถ้ารวมปันผลคือหุ้นเด้งตัวนึงในชีวิตผมเลย ตัวนี้ผมแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น delist แล้วเสี่ยงซื้อไป เพราะตอนนั้นมันคิด F PE ได้ 10 เอง
เรียกว่าตอนนั้นรู้ไม่เยอะ แต่ดีที่ซื้อถูกตัว และถูกเวลา ที่สำคัญคือผม"คิดถูก"
3. RML : เกรด F
ตัวนี้เป็นตัวที่ผม"ศึกษา"น้อยมาก ซื้อเพราะบอกเลยว่า bet สุดท้ายแจก W แล้วราคารูดลงไปเกือบ 30% จากทุน 1.8 ลงไป 1.4 แล้วดีดกลับนอนที่ 1.5-1.6 นานมาก พอคิดว่าตัวเองไม่รู้จริงเลยตัดสินใจ"ขาย"
ตัวนี้ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่เพราะผมไม่เข้าใจ การให้เกรดผมจะอิงกับความคิด มุมมองว่ามองถูกหรือเปล่า
ด้วยมุมมองแบบนี้ ขาดทุนแบบนี้ ผมให้ตัวเองมองผิดครับ และขาดทุนตามระเบียบ
หลังจากตัวนี้ผมสาบานกับตัวเองว่า จะไม่มีหุ้นที่ไม่อ่านก่อนซื้ออีกแล้ว !!!!
4. SNC : เกรด C
ตัวนี้ผมดูการเติบโตและ ratio ดีมาก ไปอ่านในห้อง TVI มีคนโพสต์เยอะที่สุด การเติบโตสูง ดี แถม ผบห ซื้อสัตย์ ขยัน มองกันไป 3 หลักเลยทีเดียว
ก็โอเคครับ ซื้อแล้วก็ทนดูราคามันขยับ 5-10% กำไรขาดทุนขำๆ แต่ปันผลพอสมควรเลยทีเดียว
ตัวนี้ผมเข้าใจธุรกิจเพียงผิวเผิน แต่มุมมองค่อนข้างเข้าใจ
โดยรวมถือว่าเข้าใจว่ามัน"ยังไม่ดี" เลยชิงขายหนีแบบมั่วๆ
สรุปโชคดีมากที่กำไรราวๆ 10-20% และปันผลอีก 4% หลังจากขายงบออกมาไม่ดี ร่วงไป 20% อันนี้ฟลุคแบบไม่ inside ครับ
5. HTECH : เกรด D
ตัวนี้ผมดู ratio ดี ผบห เก่ง การเติบโตสูง มาแนวกับ SNC เลยครับ
และเหมือนเดิมคือผมเข้าใจธุรกิจเพียงผิวเผิน แต่มุมมองค่อนข้างเข้าใจ(ลอกประโยคบนมาเป๊ะๆ)
แต่ตัวนี้ผม discount grade มาเหลือ D เพราะผมยังแอบมั่นใจว่ามันดี โดยอาศัย ratio ว่ามันเคยทำได้ 0.15 บาท/q มา 2Q ก็เลยคิดว่า Q3 น่าจะทำได้อีก
ตัวนี้ผมขายแบบมีนอกมีในก่อนงบออกครับ พูดตรงๆก็คือ"งบหลุด" โดยจากที่ผมกะไว้ 10-15 ตัง รู้สึกเพื่อนจะบอกมา 7 หรือ 8 ตังนี่แหละครับ
โอ้ เชื่อไว้ก็ไม่เสียหายครับ
งบดีก็แค่หมู งบเหี้ยนี่ตายครับ ก็เลยขายและงบก็ออกมาตามที่เพื่อนบอกครับ ดับอนาถมาก
ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับตัวนี้อีกเลยจน Q4 งบออกมาขาดทุนซ้ำอีก = ="
รู้สึกโชคดีครับ แม้จะใช้ศาสตร์มืดบ้างก็ตาม
6. SIS : เกรด C
ตัวนี้มาแนว ratio ดีอีกแล้วครับ แต่ไม่ใช่หุ้นโรงงาน
และมาแนวว่าเกิดปัญหา"ชั่วคราว"คือน้ำท่วม
ตัวนี้คนอยากรวยมองธุรกิจ กิจการ เข้าใจถูกหมด แต่ที่ผิดคือ
- ปัญหาที่โดนน้ำท่วมยังแก้ไม่หมดดี
*** - มองภาพใหญ่อุตสาหกรรมผิด เพราะสินค้า IT พวก PC และ notebook drop ลงมาก ***
พองบออกมาฟาดหน้าว่าคนอยากรวยคิดผิด และอุตสาหกรรมมันหดตัว ก็ขายทิ้งราคาเปิดทันที โชคดีที่มันลงไปต่ออีกมาก
โดยรวมตัวนี้"ขาดทุน"มากที่สุด เทียบกับขนาดพอร์ทตอนนั้นนน่าจะ 5-6% เลยทีเดียว
แต่โดยรวมคิดว่าตัวเองมองภาพธุรกิจไม่ขาดแค่นั้นเอง
เป็นที่มาที่ทำให้คนอยากรวย"เข้าใจ"ตัวเร่ง ว่าถ้าจะซื้อหุ้น turn around รอ"ตัวเร่ง"ก่อน อย่ารีบเข้าไปเดี๋ยวเงินจม
ต้องขอบคุณเหมือนกัน ถ้าไม่มีตัวนี้ คนอยากรวยคงไม่เข้าใจตัวเร่ง
7. JUBILE : เกรด A
จะเห็นว่า 6 ตัวก่อนหน้า ถูกจังๆแค่ตัวเดียวคือ SCBLIF นอกนั้นเน่าหมด ดีที่ตลาดดี ไม่งั้นขาดทุนอ๊วก(แม้จะไม่กำไรเท่าคนอื่นก็ตาม) ดังนั้นใครจะลอกตามคนอยากรวยคิดดีๆ เม่าก็คือเม่า 555+
ตัวนี้คนอยากรวยก็เลือกเองอีก ถือว่า"คิดถูก" และโชคดีที่"ตัวเร่ง"มา
ตัวนี้จริงคนอยากรวยมองว่าคือว่าที่ winner stock เลยนะ คือจริงๆมันดีอย่างนี้มานานแล้ว และจะดีอย่างนี้ต่อไปอีกนาน ถ้าไม่เกิด economic crisis ซะก่อน เพราะเพชรแบบ"ค้าปลีก"ยังไม่มีเจ้าตลาด และ JUBILE คือผู้นำ และการโตมาถูกทางมากๆ แบรนด์แข็งแกร่งเรื่อยๆ
ที่อื่นไม่กล้าพูด แต่ใน blog ตัวเองคิดว่ามันคือผุ้ชนะในวงการเพชรในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ทุกคนจะรู้จักยี่ห้อแบรนด์ JUBILE แต่ตอนนี้คนยังคิดว่ามันไม่ใช่ modern trade หรือไม่ก็รอความสำเร็จจริงๆของมันอยู่ !!!
ตัวนี้ทำ century break ตัวแรกในชีวิตโดยถือมาไม่น่าเกิน 2 เดือน แต่ทำตอนเค้าปั่นกันแตะแปบเดียว ยังไม่ทันเห็น +100% ก็ลงมาซะก่อน(เสียใจนะเนี่ย) แถมมีน้อยที่สุดในพอร์ท กำไรเยอะจริงแต่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
และคนอยากรวยก็แอบซื้อตามทางอีกตอนร่วงๆ เพราะเค้าทำได้"ดี"ตามที่ควรจะเป็น
โตไม่มากไม่หวือหวา แต่ 20-30% ต่อปีอีกนาน PE สูงแต่เทียบกับ modern trade อื่นๆยังจิ๊บๆ
ตัวนี้ลืมเขียนลง blog 555+
8. HMPRO : เกรด B
หุ้น super stock 1 ใน 2 ตัว ตัวนี้ยอมรับว่ากัดฟันซื้อตอนมันนิ่งๆนี่แหละ
คุยกับอาจารย์อาจารย์ก็บอก ผมก็เก็บเหมือนกัน(แอบดีใจ)
แถมยังสอนบทเรียนใหม่คือ "หุ้นพวกนี้มันไม่ floor หรอกครับ เพราะคนรู้ว่ามันดี ลงเยอะก็มีคนเก็บ"
ตัวนี้คงไม่ได้ให้คะแนนตัวเองสูงมาก เพราะหุ้นมันชัดมากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่ไปเก็บตอนไม่มีคนพูดถึง ตัวนี้โตเรื่อยๆอีกนาน
กำไรพอใช้ได้ แต่มีน้อย เลยต้องขายหมูไปรับตัวอื่นเดี๋ยวเล่าอีกที
แต่อย่างน้อยก็เข้าใจภาพธุรกิจ modern trade มากขึ้น
9. INTUCH : เกรด B
ตอนนั้นรุ้สึกทนไม่ไหวกับ BLA เลยทยอยขายออก และ BLA มันเยอะมากๆๆๆๆๆๆ จนไม่รู้จะหาตัวไหนลง ก็เลยมาลงที่ safe heaven คือ intuch เพราะคิดวาเอาไว้ฝากเงิน อย่างน้อยน่าจะกำไรกว่าฝากธนาคาร เผลอๆจะได้เงินก้อนใหญ่ อิอิ เก็บจนมากที่สุดในพอร์ทเพราะไม่รู้จะซื้อตัวไหน
สุดท้ายมันก็นิ่งอยู่ 6 เดือน ราคาขึ้นๆลงๆอยู่นั่นแหละ
ในที่สุดก็ขายออกจนหมด กำไรราวๆ 4-5% ก็ไม่เยอะ แต่ถือว่ามันก็ทำตามหน้าที่ของมันคือ"รับฝากเงิน"(จริงแอบหวังอย่างอื่นด้วย แต่ไม่ได้ของแถมก็ไม่เป็นไร)
ตัวนี้สอนคนอยากรวยให้คิด DDM เป็น
10. NINE : เกรด A
ตัวนี้แอบภูมิใจว่ามองออกเป็นลำดับต้นๆ เพราะแนวโน้ม"ดี"ชัดเจน แม้กำไรจะยังไม่ออกมาก็ตาม แต่เสียดายที่ซื้อ"น้อย"ไปนิด
ตอนซื้อคิดว่าเป็นเด้งแหงๆ อาจจะสักปีนึง แต่ด้วยโชคหรืออะไรไม่รุ้มันมาเร็วมาก พอๆกับ JUBILE แต่ไม่มีกำไรรองรับ ไม่กล้าไล่ครับ เลยมีอยู่น้อยมากอีกแล้ว
พระเจ้าก็แกล้งต่อด้วยการให้เนชั่นมา"เพิ่มทุน" แล้วมีการลากไปจนได้ 3 เด้งกว่าๆ
สำหรับคนอยากรวยถือว่ามัน"นอกเกม"แล้ว เพราะไม่รู้ volume ไม่รู้กราฟ และมาถึงราคาเป้านานแล้ว ที่เหลือเมื่อ"ไม่อยู่ในเกม"ของเรา คนอยากรวยเลยขายทิ้งดื้อๆครับ
ส่วนจะหมูหรือเปล่าไม่รู้ รอลุ้นเอา
11. KTC : เกรด A
ตัวนี้มองช้ากว่าเซียนไปเยอะมาก ทำให้ต้องมา take risk การทำงานต่อว่าจะดีจริงไหม(เซียนหนีไปหมดแล้ว) เป็นตัวหลักในพอร์ทและตอนนี้โดนทุบมา 1 อาทิตย์ติดๆลงไป 10% เรียกว่า"อ๊วกแตก"
แต่ทนถือต่อ แลั้วตัดสินว่าเป็นอย่างไร ถ้าได้ตามเป้า ถือว่าเกรด S เพราะมองขาดทะลุ แต่ถ้าไม่ได้ตามเป้า เอาไปเกรด B เพราะก็ยังเทิร์นหลอกๆได้(อาจจะขาดทุนจากตรงนี้นิดหน่อย)
โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะไปต่อ มาลุ้นกัน ชะตาชีวิตปีนี้คงต้อง"ฝากไว้"กับตัวนี้ละ
และตัวนี้สอนให้คนอยากรวยรู้จักการ follow buy เพราะปกติหุ้นขึ้นก็กลัวและหยุดซื้อทันที(เหมือน JUBILE กับ NINE) ตัวนี้ทำให้ใช้วิชามารอย่าง MM มากขึ้น
12. RS : เกรด A
หุ้นตัวนี้หลายๆคนมองมันเกือบๆจะดีแล้ว เพราะติดปัญหา LC pay TV ทำให้อาจจะขาดทุนจากค่าลิขสิทธิ์ลาลีก้าทำให้คนกลัวขาดทุน
แต่คนอยากรวยแอบไปคุยกับ IR และนั่ง valuation เองมั่วๆแล้ว คิดว่า F PE แค่ 10 นิดๆเอง กับหุ้นที่อยุ่ในเทรนด์และ"ดี"ขนาดนี้
ทำให้นั่งเก็บตัวนี้เยอะมาก โดยเสี่ยงเก็บ W เพราะ W มันน่าจะได้ราวๆ 1 เด้ง
เหมือนสวรรค์เห็นใจความพยายาม พอเก็บคน 20% ก็ลากออนทัวร์ทันที ในเดือนนิดๆ ก็ได้ 1 เด้งมาสมใจครับ แต่อีกใจนึงก็เซ็งเพราะเงินเดือนใหม่ยังไม่ออกมาให้เก็บตัวนี้เพิ่มอีกเลย ขี้เกียจทำการบ้านอ่ะ
ส่วน WORK ยังไม่ประกาสผลสอบ รอดูก่อน
โดยสรุปปีที่แล้วซื้อ-ขายหุ้นเยอะมากๆ 12 ตัว เงินลงพอร์ท 100% ตลอด
เน่าไปจริงๆ 2 ตัว(HTECH,SiS) ไม่ไปไหน 2 ตัว(INTUCH, SNC) และไปแบบไม่ได้มีส่วนร่วม 2 ตัวคือ RMLและ BLA ถือว่าบัดซบอยู่ โอกาสผิดถูกมัน 50:50 เหมือนมั่วเอาเลย
ตัวที่ประสบความสำเร็จคือ SCBLIF, RS, KTC, NINE และ JUBILE ได้มาเฉลี่ยราวๆ 1 เด้งทุกตัว
สรุป
- การเข้าซื้อมีผิดพลาดตามตัวที่เข้าผิดไป
- การขายมีผิดพลาดครั้งเดียวคือขาย SCBLIF ตอน 630 แล้วไปซื้ออีกทีตอน 700
ที่เหลือแม้จะขายหมู HMPRO แต่เพราะคิดว่า KTC มี upside เยอะกว่า และคนอยากรวยคิดถูก(ถึงตอนนี้นะ ต่อไปอาจจะคิดผิด) ที่เหลือคือ cut loss ทิ้งอย่างมีเหตุผล เพราะ"คิดผิด"ตั้งแต่ตอนซื้อ โชคดีที่"ยอมรับความจริง"ได้
ตัวที่"พลาด"ไม่ได้ซื้อ
คนอยากรวยจะไม่เอาตัวที่ไม่ได้อยู่สายตามารวมนะครับ แต่จะเอาเฉพาะตัวที่อ่านพอสมควรแล้ว แต่ไม่ซื้อ
- GL เป็นหุ้นเป็นเด้งๆที่พลาดอย่างจังและเสียใจอย่างที่สุด เพราะอ่านเข้าใจแล้ว คำนวณออกแล้วว่ากำไรน่าจะ 4-5 อย่างต่ำ ราคาตอนนั้น 24-25 บาท
แต่ดันไปอ่านบทความนึงบอกว่า "หุ้นการเงินมักจะได้ PE 5-7 เพราะมักมักจะเจ๊งเมื่อเกิด economic crisis หรือไดีจนถึงวันเจ๊ง""
ซึ่งเอาราคามาคิดก็ อืม FV พอดีนี่หว่า เลยไม่ได้ซื้อ สรุปไป 80 บาท แทบบ้าครับ
คนอยากรวยว่าคนเขียนบทความไม่ผิด คนอยากรวยประเมินตลาดผิดเอง
-AOT หุ้น 1 เด้งอีกตัว ที่อาจารย์แนะนำมาโดยตรง ยอมรับว่าอ่านแล้ว ประเมินกำไรแบบงงๆแล้ว เข้าใจประเด็นแล้ว แต่ไม่ได้เล่นเพราะตอนนั้นแอบไม่ชอบ
สรุปก็หมูไป 1 เด้ง ส่วนอาจารย์ได้มา 500m โอ้ พอร์ทเราช่างต่างกันจริงๆ
-JAS หุ้นอีกเด้งที่หายไป เข้าใจภาพธุรกิจ BB แล้ว มองตอนนั้น F PE 10-12 ไม่รู้ไปกลัวอะไร ไม่กล้าเข้า สรุปหมูไปตามระเบียบรัตน์
ส่วนตัวอื่นมองผ่านๆ อย่างเช่น SIRI อ่านไม่เข้าใจ SUPER มองว่าไม่ดี เป็นต้น
โดยภาพรวมถือว่าเฉยๆ แต่คิดว่าเป็นปีแรกที่เข้าตลาด มีมั่วเยอะเลยคิดว่าพอใช้ได้
อย่างไรก็ดีปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว หน้าใหม่หรือเพิ่งเข้าตลาดคงใช้ไม่ได้อีกแล้ว ก็ต้องทำให้"ดี"ในฐานะคนเล่นหุ้นให้ได้ครับ โย่วววววววววววววววว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น